ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากางเกงยีนส์เป็นแฟชั่นที่ไม่เคยตกยุค เพราะสังเกตได้จากแฟชั่นตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เราจะเห็นกางเกงยีนส์เป็นหนึ่งในไอเท็มที่หยิบยกมาใส่กันอยู่ตลอด หรือไม่ว่าจะหันมองไปทางไหน ต้องมีอย่างน้อยสักหนึ่งคนบนท้องถนนที่ใส่กางเกงยีนส์อยู่
แต่กางเกงยีนส์คู่ใจของหลาย ๆ คนนี้มันมาฮิตได้ยังไง Dope Eyes จะพาไปดูเบื้องหลังของไอเท็มสุดฮิตชิ้นนี้กัน!
ก่อนที่จะไปรู้ถึงความสำเร็จของกางเกงยีนส์ในทุกวันนี้ เราจะพาทุกคนมารู้จักถึงที่มาของกางเกงยีนส์กันก่อน
ย้อนกลับไปประมาณยุค 1800s ยีนส์ถูกผลิตขึ้นครั้งแรก (อย่างไม่เป็นทางการ) จากชายที่มีชื่อว่า Jean-Gabriel Eynard โดยจุดประสงค์หลักในตอนแรกใช้เป็นเพียงยูนิฟอร์มของกองทหารเมสซิน่าที่กำลังจะบุกเข้ามาในเมืองเจนัว ประเทศอิตาลี โดยตั้งชื่อยูนิฟอร์มนั้นว่า “bleu de Genes” หรือกลายเป็นที่มาของคำว่า “Blue Jeans” ในภาษาอังกฤษนั่นเอง
แต่นี่ก็ไม่ใช่จุดเริ่มต้นของยีนส์ที่เรารู้จักกันในทุกวันนี้ เพราะจุดเริ่มต้นจริง ๆ ของมันนั้นเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2414 หรือ ค.ศ. 1871 เมื่อช่างตัดเสื้อ Jacob Davis ได้ชักชวนนักธุรกิจชาวเยอรมันที่ย้ายมาอยู่อเมริกาอย่าง Levi Strauss มาเริ่มผลิตกางเกงยีนส์และจดสิทธิบัตรในวันที่ 20 พฤษภาคม ปี 1873 วันนั้นเองตำนานกางเกงยีนส์ได้ถือกำเนิดขึ้น เดิมทีกางเกงยีนส์ผลิตขึ้นมาเพื่อคนงานในโรงงานเหมือง และกลุ่มผู้ใช้แรงงานกลุ่มอื่น โดยจุดเด่นของกางเกงยีนส์ก็คือความทนทานที่มากกว่ากางเกงชนิดอื่น และการออกแบบกางเกงที่มีหมุดสีทองแดงตรึงเป็นแนวตามขอบกระเป๋ากางเกงเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานของกลุ่มแรงงาน
นับจากวันนั้นเป็นต้นมาในช่วงปี 1920-1930 กางเกงยีนส์จึงกลายเป็นไอเท็มสุดฮิตที่ครองใจชาวอเมริกาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเหล่าคนงานเหมือง หรือคาวบอยที่ต้องการกางเกงที่มีความทนทานและแข็งแรง
ในช่วงแรกกางเกงยีนส์จะตั้งใจผลิตให้เหมาะสำหรับคนงานในเหมืองเท่านั้น แต่นับตั้งแต่การที่ James Dean ดาราฮอลลีวู้ด หยิบกางเกงยีนส์ขึ้นมาสวมใส่จากภาพยนต์เรื่อง Rabel Without a Cause (1955) จนกระทั่งในปี 1970 กางเกงยีนส์กลับกลายมาเป็นแฟชั่นที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น จนกลายมาเป็นไอเท็มที่เปลี่ยนวงการแฟชั่นจนถึงทุกวันนี้
จากแดนตะวันตกสู่แดนอาทิตย์อุทัยกับบทบาทของ 'ยีนส์' ที่หรูหราขึ้น
ถึงแม้กางเกงยีนส์จะถือกำเนิดขึ้นมาจากทางฝั่งอเมริกา แต่หากเราพูดถึงกางเกงยีนส์ อีกหนึ่งชาติที่มีความโดดเด่นในเรื่องของกางเกงยีนส์คงจะหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น ด้วยการดีไซน์ สีสัน คุณภาพ และความประณีตที่เป็นเอกลักษณ์ กางเกงญี่ปุ่นจึงกลายเป็นยีนส์ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากคนทั่วทุกมุมโลก ร่วมไปถึงประเทศไทยของเราเช่นกัน
ถึงแม้ในท้องตลาดกางเกงยีนส์ปัจจุบันจะมียีนส์หลากหลายราคาให้เลือก ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น แต่ทำไมคนถึงยังยอมเลือกที่จะจ่ายเงินหลักหมื่นไปแค่กับกางเกงยีนส์เพียงตัวเดียว? คำตอบง่าย ๆ เลยก็คือกางเกงยีนส์จากประเทศญี่ปุ่นมีความโดดเด่นและแตกต่าง
จุดเริ่มต้นของความพีคของ Japanese Denim เริ่มต้นในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่สองซึ่งยีนส์กลายเป็นไอคอนที่ผู้คนแทบจะทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะวัยรุ่นในช่วงนั้นที่ได้รับอิทธิพลความวินเทจจากฝั่งตะวันตก
จากความหลงไหลในความวินเทจ กลายเป็นแรงผลักดัน
ผู้คนส่วนใหญ่ในเมืองโคจิมะ (Kojima) แหล่งผลิตยีนส์ที่โด่งดังจากจังหวัดโอคายามะ (Okayama) ประเทศญี่ปุ่น เริ่มทำการศึกษา และออกแบบผลิตกางเกงยีนส์ที่ผสมผสานความเป็นตะวันตกและวัฒนธรรมของญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
จนในที่สุดยีนส์สัญชาติญี่ปุ่นแบรนด์แรกก็ถือกำเนิดขึ้น ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า BigJohn Jeans ด้วยเอกลักษณ์ของยีนส์ที่ความขลังจากผ้าดิบผสมผสานความวินเทจในแบบฉบับของญี่ปุ่น และนอกจากกางเกงยีนส์ BigJohn แล้ว อีกแบรนด์หนึ่งที่จะไม่พูดถึงไม่ได้หากพูดถึงยีนส์จากฝั่งแดนปลาดิบ ก็คงต้องนึกถึงแบรนด์ Evisu กางเกงยีนส์เกรดพรีเมี่ยมที่คิดค้นโดยนาย Hidehiko Yamame โดยจุดเด่นของแบรนด์นี้คือ การใช้เทคนิคในการทอผ้าแบบเดียวกันกับกางเกงยีนส์ Levi’s จึงเป็นแบรนด์แรกที่สามารถตั้งราคายีนส์ได้สูงถึง 100$ ต่อตัวเลยทีเดียว
อีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้ยีนส์จากญี่ปุ่นมีความโดดเด่นมาจากการผลิตกางเกงยีนส์ริม หรือแบบเซลเวดจ์ (Selvedge) ที่มาจากคำว่า Self-edge ด้วยดีไซน์ที่มีการพับขากางเกงขึ้นมาเพื่อป้องกันไม่ให้ตะเข็บกางเกงหลุดรุ่ย และสีสันให้กับขากางเกงด้วยสีริมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นริมสีแดง สีเหลือง หรือสีขาว และด้วยการทอออกมาอย่างประณีตนี้จึงไม่แปลกใจว่าทำไมกางเกงยีนส์ที่มีริมจึงมีราคาสูงกว่ากางเกงยีนส์ทั่วไป
การผลิตยีนส์สัญชาติญี่ปุ่นทุกตัวจะมีวิธีการและขั้นตอนที่พิถีพิถัน โดยจะใช้เทคนิคการทอผ้าด้วยการใช้เครื่องจักรแบบดั้งเดิมผสมผสานและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการนำเครื่องจักร Toyoda เข้ามาเพื่อย่นระยะเวลาในการผลิตกางเกงยีนส์ในแต่ละตัว หรือการที่เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุด และนี่จึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้กางเกงยีนส์จากญี่ปุ่นสามารถครองใจคนได้ทั่วโลก และเป็นผู้นำแฟชั่นกางเกงยีนส์วินเทจมาได้อย่างยาวนานนั่นเอง
.
Source | https://bit.ly/30u0Le0
Bình luận