top of page
Nattawut B.

ยกระดับแบรนด์ของคุณ ด้วย "Always-On Content"

ในปัจจุบันนี้การทำการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ทั้งเทคโนโลยี Digital ที่พัฒนาอย่าง

รวดเร็ว ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนตามไปด้วย แต่ละแบรนด์จึงต้องปรับกลยุทธ์การตลาด

ที่สามารถสื่อสารไปยังผู้บริโภคได้ตลอดเวลา เพื่อยังคงดึงความสนใจมาที่แบรนด์ของเราอยู่เสมอ


Always-On Content ถือว่าเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ Content Marketing ที่เหมาะมาก ๆ กับพฤติกรรม

ผู้บริโภคในยุคนี้ ที่เน้นการสื่อสาร และการมีปฏิสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา ในบทความนี้ DOPE EYES

จะพาทุกคนไปรู้จักกับ Always-On Content ว่าคืออะไร แล้วจะสามารถช่วยยกระดับการสื่อสาร

การตลาดของแบรนด์คุณได้ยังไง


Always-On Content เป็นแบบไหน?


ต้องบอกก่อนว่าในตอนนี้ ปัจจัยในการทำคอนเทนต์หลัก ๆ จะถูกแบ่งออกได้เป็นสามอย่างก็คือ คุณภาพ (Quality), ปริมาณ (Quantity) และความสม่ำเสมอ (Consistent) ซึ่ง Always-On หรือ Drip Marketing จะเป็นรูปแบบการทำคอนเทนต์ทางการตลาดที่เน้น ทั้งสามปัจจัยนี้ แต่จะเด่นที่สุด

ก็คือในเรื่องของความสม่ำเสมอ


เพราะว่าลักษณะของ Always-On Content นั้น เป็นการทำคอนเทนต์ที่ต้องมีการกำหนดว่าเราจะทำอะไร แบบไหน เมื่อไหร่ เป็นเหมือนการเตรียมความพร้อม และวางแผนไว้ล่วงหน้า ที่มีลำดับขั้นตอนชัดเจน เลยทำให้จุดเด่นของรูปแบบนี้คือ ความสม่ำเสมอ ที่ต้องมีการวางแผนการลงคอนเทนต์อย่างต่อเนื่องในระยะยาว


แล้วทำไมต้อง Always-On?


สำหรับเหตุผลที่ควรจะเลือก Always-On แทนการทำคอนเทนต์ทางการตลาดแบบเดิม เพราะจากข้อมูลของ Hubspot บอกไว้ว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคส่วนใหญ่ ถ้าเกิดได้รับสิ่งดี ๆ หรือสิ่งที่น่าสนใจไปแล้ว จะเกิดเป็นความคาดหวังมากขึ้นว่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีแบบนั้นอีก ดังนั้นการทำคอนเทนต์แบบ Always-On ที่เป็นการลงอย่างต่อเนื่อง จะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ได้มากขึ้นนั่นเอง


สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำ Always-On Content


ก่อนที่เราจะเริ่มทำคอนเทนต์ใด ๆ ขึ้นมา เราควรมีสิ่งที่เรียกว่า Content Pillar หรือแกนในการเขียนคอนเทนต์ ที่เป็นการแบ่งสัดส่วนเนื้อหา ว่าในแต่ละเดือนเราจะเน้นไปที่คอนเทนต์ประเภทไหน มีปริมาณเท่าไหร่อย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งนี้เป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการทำ Always-On Content เพราะทำให้แบรนด์สามารถกำหนดทิศทางการสื่อสารออกมาได้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า และแสดงภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง


โดยรูปแบบ Pillar จะแตกต่างกันไปตาม Insight ของแต่ละแบรนด์ ยกตัวอย่างเช่น


รูปแบบคอนเทนต์ยอดนิยม


หากใครที่เล่นโซเชียลอยู่บ่อย ๆ ทุกคนน่าจะได้เห็นรูปแบบคอนเทนต์ที่แตกต่างกันหลายแบบ แต่เรายกมา 3 รูปแบบยอดนิยม ที่เหมาะสมกับการทำ Always-On Content ให้ทุกคนได้ลองนำไปออกแบบคอนเทนต์ของตัวเองกันได้เลย!


Single Post


เป็นรูปแบบที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมาก ซึ่งทุกคนน่าจะเคยเห็นกัน ตามเพจบน Facebook ที่มีการเขียนแคปชัน พร้อมกับรูป Artwork ขายของ ที่ใช้เพื่อการโปรโมท หรือจะเป็นในลักษณะของบทความให้ความรู้ก็ได้เช่นกัน


Album Post


ส่วนใหญ่จะใช้กับคอนเทนต์ ที่เราทำออกมาแล้วมีเนื้อหาเยอะ ไม่สามารถใส่ข้อมูลไปได้หมด หรือจะใช้ในตอนที่เราต้องการย่อข้อมูลที่เยอะ ๆ ของเราให้ดูง่ายและไม่น่าเบื่อ


Video


เป็นคอนเทนต์ที่ใช้ต้นทุนเยอะ แต่ก็ถือว่าได้รับความนิยม จากพฤติกรรมของคนที่ใช้สื่อโซเชียลในตอนนี้ ที่ชอบคอนเทนต์แบบวิดีโอกันมากขึ้น เพราะมีทั้งภาพ และเสียง สามารถดึงความสนใจ และทำให้ผู้ชม

มีอารมณ์ร่วมได้ง่าย


การทำ Always-On Content นั้นอาจจะใช้งบประมาณเยอะ และกินเวลาค่อนข้างนาน แต่ก็เป็นการทำการตลาดที่ยั่งยืน และได้ผลลัพธ์ที่ดีเลยทีเดียว มันจะช่วยทำให้แบรนด์ของเราแข็งแกร่ง และเติบโตได้ดี และกลายเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคจะนึกถึงอยู่เสมอในอนาคตนั่นเอง





45 views0 comments

Comments


bottom of page