ช่วงเวลาที่นักอ่านทั้งหลายรอคอยมาถึงแล้ว กับงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติ 2565 เชื่อว่าต้องเป็นอีกอีเวนต์ที่นักอ่านทั้งหลายไม่อยากพลาด เพราะเป็นโอกาสที่หลาย ๆ สำนักพิมพ์จะขนหนังสือมาขาย แถมยังมีการลดแลกแจกแถมให้หนอนหนังสืออย่างเรา ๆ ได้ชุ่มชื่นหัวใจ เรียกได้ว่าเป็นเหมือนขุมทรัพย์ของนักอ่านกันเลยก็ว่าได้
แต่ในปัจจุบันนี้ที่ราคาหนังสือพุ่งสูงขึ้นจากแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัด ที่แม้แต่คุณชัชชาติควักแบงก์ 500 ออกมา ยังต้องชะงัก เพราะหนังสือมันแพงกว่านั้นอีก! ถ้าราคาหนังสือเล่มแพงขึ้นแบบนี้ ความนิยมของ E-Book จะมากขึ้นหรือไม่?
ราคาหนังสือที่สวนทางกับรายได้คนไทย
จริง ๆ แล้วตามหลักเศรษฐศาสตร์ ราคาหนังสือนั้นสูงขึ้นตามราคาเงินเฟ้อเช่นเดียวกับสินค้าอื่น ๆ แต่ที่เรารู้สึกว่ามันแพงก็เพราะว่ารายได้ของเราไม่ได้เพิ่มขึ้นตาม ทำให้กำลังซื้อของคนไทยน้อยลง จากแต่ก่อนราคาหนังสือต่อเล่มเฉลี่ยประมาณ 100-200 บาท สการ์ตูนราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ 30-50 บาทต่อเล่ม แต่ปัจจุบันราคาหนังสือเฉลี่ยเล่มละ 200-400 บาท ไม่ต้องพูดถึงหนังสือการ์ตูนที่เราเคยซื้อ ตอนนี้ก็ราคาเฉลี่ยอยู่ที่เล่มละ 80-100 บาทกันเลยทีเดียว
หรือ E-Book จะมาแทนที่?
เมื่อเรามามองตลาด E-Book ในประเทศไทยจะเห็นได้ว่ามีการเติบโตอย่างมากจากปี 2560 ที่มีการคาดการณ์อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 14% จากมูลค่าตลาด 2,960 ล้านบาท แต่ในปี 2565 มูลค่าตลาด E-Book เพิ่มขึ้นเป็น 5,705 ล้านบาทต่อปี จากจำนวนตัวเลขดูเหมือนว่าตลาด E-Book จะเติบโตขึ้นอย่างมาก แต่ความนิยมใน E-Book นั้นก็ยังไม่ถึงขั้นที่จะมาแทนที่หนังสือเล่มได้ ดูจากจำนวนผู้เข้าร่วมงานมหกรรมหนังสือแห่งชาติปี 2565 นี้ ที่ยังดูคึกคักเหมือนกับทุก ๆ ปี แสดงให้เห็นว่าความนิยมในหนังสือแบบเล่มก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
เพราะเมื่อเทียบกันแล้ว ราคาของ E-Book นั้นไม่ได้แตกต่างจากหนังสือเล่มเท่าไหร่ และถ้ามองถึงการเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในหนังสือแล้ว เวลาที่เราซื้อ E-Book นั้นผู้ซื้อได้เพียงสิทธิ์ในการเข้าถึงเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าของไฟล์อย่างแท้จริง เหมือนที่เราได้เป็นเจ้าของหนังสือในรูปแบบเล่ม และผู้อ่านยังต้องการอารมณ์ความรู้สึกจากการได้จับกระดาษพลิกหน้าหนังสืออยู่ เป็นสัมผัสที่ E-Book ก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้
เป็นแค่ไฟล์ ทำไมแพงจัง?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม E-Book ถึงมีราคาเกือบเท่ากับหนังสือจริง ทั้ง ๆ ที่ก็ไม่ต้องมีต้นทุนในการพิมพ์รูปเล่มสักหน่อย ว่ากันตามตรง E-Book ก็มีต้นทุนที่สูงไม่ต่างกับหนังสือเล่ม ไหนจะค่าลิขสิทธิ์ ค่าธรรมเนียมแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่นำไปลงขาย ภาษี ค่าธรรมเนียมการจ่ายผ่าน Payment Gateway ดังนั้นราคาหนังสือ E-Book ในปัจจุบันจึงไม่สามารถกดให้ต่ำลงกว่านี้ได้ แต่ E-Book ก็มีข้อดีอยู่คือพกพาสะดวกเหมือนมีชั้นหนังสือติดตัว และเนื่องจากไม่ต้องพิมพ์รูปเล่มจึงประหยัดทรัพยากร และยังเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากกระบวนการพิมพ์ ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับนักอ่านแล้วว่า จะเลือกซื้อหนังสือแบบไหนที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์การอ่านของแต่ละคน
ในตอนนี้อาจจะยังสรุปไม่ได้ว่า E-Book จะมาแทนที่หนังสือเล่มได้หรือเปล่า เพราะสุดท้ายแล้ว ทั้งสองรูปแบบก็ยังมีราคาที่แพงอยู่ เราก็ได้แต่รออย่างมีความหวัง ว่าในอนาคตอุตสาหกรรมหนังสือในไทยจะได้รับการสนับสนุนมากกว่านี้ และมีราคาที่ทุก ๆ คน ทุกเพศ ทุกวัยสามารถจับต้องได้
Comments