เอ๊ะ? เมนูไอจีเปลี่ยนไป? เพราะตอนนี้เค้ามีฟังก์ชั่นใหม่ที่ชื่อว่า "Reels" เข้ามา!
แม้ว่าพึ่งจะเปิดตัวไปในไทยได้หมาด ๆ สำหรับ Instagram Reels ฟังก์ชั่นใหม่จากทาง Instagram ที่เปิดให้ Short Video Creator ได้มีโอกาสสร้างผลงานมอบความสนุกให้กับผู้ชม รวมไปถึงการสร้างชื่อเสียงให้ตนได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในอินฟลูเอนเซอร์บนโลกออนไลน์ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุที่เจ้าฟังก์ชั่นนี้ช่างมีความคล้ายกับ TikTok ซะเหลือเกิน เพื่อน ๆ หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่ามันแตกต่างกันยังไง? และข้อแตกต่างที่ว่านั้นจะทำให้ Instagram เป็นผู้ท้าชิงแบบเต็มตัวจริง ๆ หรือเปล่า
วันนี้เราจะมาวัดกันหมัดต่อหมัดถึงข้อแตกต่างระหว่างทั้งสองแพลตฟอร์มอย่างลึกกัน!
TikTok vs Instagram Reels - Who's the winner?
กลุ่มคนดู Target Market
แม้ว่าทางตัวคอนเทนต์อาจมีความคล้ายคลึงกันอย่างมากในรูปแบบวิดีโอแบบสั้น แต่กลุ่มคนดูระหว่างสองแพลตฟอร์มนี้มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด! โดยถ้าหากพูดถึงกลุ่มคนดูบน TikTok นั้นส่วนมากจะเป็นเหล่าวัยรุ่นและเด็ก ๆ ใน Gen Z ซะส่วนใหญ่เนื่องจากเป็นแอพน้องใหม่ที่เพิ่งคลอดได้ไม่นานและได้ตอบโจทย์พวกเขาอย่างมาก ซึ่งผิดกับ Instagram จะกลุ่มคนดูจะเป็นตลาดที่ใหญ่กว่าแต่เนื่องจากกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีอายุมากกว่าเหล่า Gen Z การใช้เวลาบนโลกออนไลน์จึงน้อยกว่าเหล่าเด็ก ๆ ยุคใหม่ไปโดยปริยาย และแน่นอนว่าผลประโยชน์ของการเจาะตลาดแต่ละกลุ่มนั้นแตกต่างกัน เพราะฉะนั้นลองเลือกกลุ่มที่น่าจะให้ประโยชน์กับคอนเทนต์ที่เราจะสร้างมากที่สุดด้วยนะ!
ความยาววิดีโอ Video Length
30 วินาที (Instagram Reels) vs. 60 วินาที (TikTok) - ความแตกต่าง 30 วินาทีที่เปิดให้วัดความครีเอทีฟแบบเน้น ๆ อย่างไรก็ตามในอนาคตสื่อหลายเจ้าคาดการณ์ว่า Instagram Reels น่าจะรองรับวิดีโอที่มีความยาวมากขึ้นอย่างแน่นอน
การเลือกใช้เพลง Music Options
หนึ่งในข้อแตกต่างหลักอีกข้อหนึ่งระหว่าง Instagram Reels และ TikTok คือการเข้าถึง Music Library ของแต่ละแอพ! เพราะตอนนี้ IG Users อาจจะได้รับการเข้าถึงเนื้อหาเพลงได้ไม่เต็ม 100% เนื่องจาก Instagram Music ยังคงครอบคลุมไม่ถึงทั่วทุกมุมโลก ซึ่งหากต้องการเพลงบางเพลงโดยเฉพาะหรือว่าเหมือนบน TikTok แล้วละก็ IG Users อาจจะยังต้องพึ่งแอพ นอกเพื่อทำ Import หรือทำเพลงขึ้นมาเองอยู่
ฟีเจอร์การตัดต่อวิดีโอบนแอพ Video Editing Features
แม้ว่า Interface การตัดต่อวิดีโอของทั้งสองแอพจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ถ้าให้พูดถึงเรื่อง Effects และ Filters ต่าง ๆ TikTok ถือว่ายังทำผลงานได้ดีกว่าเยอะ ซึ่งรวมไปถึง Voice Effects และ Voiceover Tools ที่ทาง TikTok สามารถทำให้เราดัดแปลงเสียงของเราได้ ซึ่ง Instagram ยังไม่สามารถทำได้ ณ ปัจจุบัน (รวมถึงฟังก์ชั่น TikTok's Duet, Reactions และ Stitch Features ด้วย)
ระบบ Recommendation วิดีโอ (Algorithm)
ถือว่า TikTok ได้ทำการบ้านมาอย่างดีหลังจากถูกวิจารณ์เรื่องการแนะนำ Video ให้แก่ผู้ใช้งาน จนเปิดตัว TikTok's "For You" ระบบแนะนำวิดีโอบนแอพ TikTok ที่ยึดรสนิยมการดูวิดีโอของแต่ละคนเป็นหลักให้ถูกกับกลุ่มในแต่ละแชนแนล ซึ่งตอนนี้ Instagram ยังคงไม่ได้เปิดเผยถึงเรื่องการแนะนำวิดีโอบน Reels แต่อย่างใด
การซื้อโฆษณาบนแอพ Paid-Advertising & E-Commerce
TikTok เปิดให้ผู้ใช้บริการสามารถซื้อพื้นที่บนแอพเพื่อโปรโมทสินค้าหรือแบรนด์ของตนได้ โดยผ่าน In-feed Ads, Brand Takeovers, TopView, Branded Hashtag Challenges, and Branded Effects ผิดกับ Instagram ที่ตอนนี้เปิดให้เฉพาะ Branded Content ระหว่าง Creators / Influencers กับแบรนด์เพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม Instagram นั้นได้เจาะไปในทาง E-Commerce มากกว่า โดยผู้ใช้แอพสามารถซื้อสินค้าบนแอพได้อย่างง่ายดาย แต่ตรงจุดนี้ TikTok ก็ถือว่าทำได้ดีตามมาติด ๆ จากการร่วมมือกันกับ Shopify หนึ่งในแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก
การวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภค Analytics
การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคของ TikTok นั้นยังทำได้ดีกว่าหากคุณมี TikTok Pro ซึ่งอนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถกำหนดเป้าหมายผู้ชมที่เหมาะสมและเข้าใจสิ่งที่พวกเขาสนใจได้อย่างแท้จริง แถมเพื่อน ๆ สามารถดูได้ว่าวิดีโอของคุณกำลังมาแรงเมื่อใด และแหล่งที่มาของการเข้าชมที่เจาะจงมาจากที่ใด บวกกับยังสามารถระบุเพลงที่กำลังติดเทรนด์เพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้เราเลือกใช้ในวิดีโอถัดไปของเราด้วย สำหรับ Instagram Reels ตอนนี้จะยังเปิดให้เข้าถึงข้อมูลได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น เช่น จำนวนคนดู การเข้าถึง และความคิดเห็น
และนี่คือ 6 ข้อแตกต่างระหว่าง TikTok และ Instagram Reels นั่นเอง! ใครสาย Content Creator อย่าลืมเลือกใช้แอพให้ถูกกันล่ะ เพราะว่าในอนาคตเราเชื่อว่า Instagram Reels ต้องเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ มาสู้กับ TikTok อย่างเทียบเคียงแน่นอน
Comments