top of page
Gunyakorn P.

Goblin Mode วิถีคนยุคใหม่พอกันทีกับการแคร์สายตาชาวบ้าน

Goblin Mode คืออะไร?

เมื่อไม่กี่ปีก่อนเทรนด์การใช้ชีวิตแบบ Productive หรือการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพ ใช้เวลาอย่างรู้คุณค่าหรือเทรนด์รักษาสุขภาพ ยังเป็นที่นิยมอยู่เลย แต่ในปีนี้คำศัพท์แห่งปี 2022 ของพจนานุกรม Oxford ที่ชนะการโหวตจากผู้คนด้วยคะแนนขาดลอยกลับกลายเป็นคำว่า “Goblin Mode” ซึ่งเป็นคำที่มีความหมายว่า การเข้าสู่โหมด “ช่างมัน” ใช้ชีวิตแบบไร้คุณภาพและขี้เกียจตัวเป็นขน ไม่อยากลุกจากเตียงไปทำอะไร ไม่อาบน้ำทั้งวัน ขอนอนเปื่อยดูซีรีส์พร้อมกับกินอาหารขยะอยู่บนเตียง เรียกได้ว่าเป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกับประโยคที่บอกว่า “ฉันจะพยายามเพื่อพัฒนาตัวเอง” โดยสิ้นเชิงเลย



แล้วทำไมคำนี้เพิ่งจะมาฮิตเอาตอนนี้

ต้องบอกก่อนว่าจริง ๆ แล้วคำว่าก็อบลินโหมดมีปรากฏให้เห็นในทวิตเตอร์มาตั้งแต่ปี 2009 เป็นคำสแลงที่ใช้อธิบายพฤติกรรมของคนที่ทำอะไร ไม่สนใจสังคม ทำอะไรตามใจตัวเอง สกปรก เกียจคร้าน ละโมบและเห็นแก่ตัวเหมือนกับก็อบลินซึ่งเป็นตัวละครในนิทานพื้นบ้านฝั่งยุโรป แต่การที่มันเพิ่งมาดังและใช้กันแพร่หลายจนได้รับการโหวตให้เป็นศัพท์แห่งปี 2022 นี้อาจเป็นเพราะว่าเราถูกการแพร่ระบาดของ Covid-19 ปลดล็อกความขี้เกียจในตัวเอง เพราะในช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่ทุกคนจะต้องกักตัวอยู่บ้านอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งเรียนออนไลน์ หรือแม้แต่ Work From Home ไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอกไม่ต้องสนสายตาใคร ทำให้ตามใจตัวเองได้เต็มที่


การมีอยู่ของคำว่า “Goblin Mode” บอกอะไรเรา

การมีอยู่ของคำคำนี้แสดงให้เราเห็นว่าในยุคสมัยนี้อาจไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่กำลังเหนื่อย ท้อ หรือหมดไฟ แต่ผู้คนในสังคมทั่วโลกต่างถูกทำให้อ่อนไหวด้วยสถานการณ์ของโลกเราที่ตอนนี้ไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ หลายคนเริ่มรู้สึกอึดอัดกับกรอบทางสังคมหลาย ๆ อย่าง เริ่มเหนื่อยกับการต้องคอยมาแคร์สายตาชาวบ้านและเริ่มไม่ได้ต้องการใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบเหมือนใส่ฟิลเตอร์อยู่ตลอดเวลาอีกแล้ว พูดง่าย ๆ คือคำว่าก็อบลินโหมดนั้นเกิดมาจากความสิ้นหวังและเหนื่อยล้าของคนในยุคนี้ที่ต้องรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ สังคม การเมือง สถานการณ์โรคระบาด แล้วไหนจะความคาดหวังต่าง ๆ จากสังคม ครอบครัวหรือคนรอบข้างอีก จนบางครั้งก็รู้สึกว่ามันมากเกินจะรับไหว มันคงจะดีถ้าเราได้หนีออกจากภาระที่ต้องแบกไว้แล้วได้ปล่อยตัวตามสบายอย่างที่ใจต้องการ ได้มีช่วงเวลาสั้น ๆ ที่จะปลดล็อกตัวเองจากความคาดหวังทุกอย่าง แล้วค่อยกลับมาเริ่มใหม่ในตอนที่ได้พักจนหายเหนื่อย



แน่นอนว่าคำคำนี้ก็คงจะเหมือนกับคำฮิต ทั่วไปที่ผ่านเข้ามาในกระแสแล้วเดี๋ยวก็ผ่านไป แต่การเกิดขึ้นของมันก็ทำให้เรามองเห็นภาพเทรนด์การใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคตข้างหน้า และทำให้ผู้คนรับรู้ได้ว่าทุกคนต่างก็สามารถมีช่วงเวลา Goblin Mode ที่ให้เราปล่อยกาย ปล่อยใจ พักจากการกดดันตัวเองให้ทำตามบรรทัดฐานของสังคมได้เหมือนกัน


บางครั้งเราก็ไล่ตามความต้องการของคนอื่นทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเราต้องการอะไร และเมื่อล้มเหลวเราก็กลับมากดดันตัวเองอีกว่าเราไม่ดีพอไม่เก่งพอ จนอาจลืมไปว่าการยอมรับความพ่ายแพ้

การยอมรับความไม่สวยงามในชีวิตก็ถือเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตเช่นเดียวกัน เราไม่ได้บอกให้ทุกคนอยู่ในก็อบลินโหมดตลอดไปแค่จะบอกทุกคนว่าไม่ว่ายังไงก็สามารถมีช่วงเวลาที่จะเปิดโหมด “ช่างแม่ง”ได้เหมือนกัน



67 views0 comments

Comments


bottom of page